วันจันทร์ที่ 10 เมษายน พ.ศ. 2560

"ถามตอบบอลไทย" บทสัมภาษณ์โค้ชเฮง

"ถามตอบบอลไทย" EP2 โดย "แมน" โกสินทร์ อัตตโนรักษ์ ผู้ประกาศข่าวกีฬา Mono29 และ TNN24 วันนี้ผมไปคุยกับ "โค้ชเฮง" วิทยา เลาหกุล ประธานพัฒนาเทคนิคสมาคมฟุตบอลไทย ตามที่หลายๆ คนเรียกร้องกันมาแล้วนะครับ เอาล่ะมาเริ่มกันเลย

ผม : เรื่องโค้ชใหม่ทีมชาติไทยคืบหน้าไปถึงไหนแล้วครับ
โค้ชเฮง : ยังมีคนส่งโปรไฟล์มาเรื่อยๆ ซึ่งเป็นโค้ชชื่อดังทั้งนั้นเลย เดี๋ยวสัปดาห์หน้าเขาก็จะเข้ามาคุยกับสมาคมอีก ที่แน่ๆก็จะมีซิโก้และดุงก้าของบราซิลที่ยืนยันว่าจะมา
ผม : อ้าว ไม่กี่วันก่อนผมเห็นข่าวว่าสมาคมจะไม่เอาซิโก้(บราซิล)เพราะไม่ยอมมาคุยกับเรา ให้เราตัดสินใจว่าจะจ้างหรือไม่จ้างเขานี่ครับ
โค้ชเฮง : เมื่อวานซิโก้เพิ่งโทรมาคุยกับผมเองนะครับ เขาก็บอกว่าสนใจจะเข้ามาคุย แต่ก็ยังไม่รู้ว่าจะมาเองหรือส่งเอเยนต์เข้ามา
ผม : รานิเอรี่ นี่เขาสนใจมาคุมทีมชาติไทยด้วยจริงมั้ยครับ แล้วทำไมพวกโค้ชดังๆถึงอยากคุมทีมชาติไทยกัน
โค้ชเฮง : ก็มียื่นโปรไฟล์เข้ามาครับ คือตอนนี้โค้ชดังๆตกงานกันเยอะ การได้คุมทีมชาติก็ถือเป็นการสร้างโปรไฟล์ของเขา พอมีงานที่ไหนว่างเขาก็เสนอตัวเป็นธรรมดา ทีนี้เราก็ต้องมาดูหลายๆอย่าง ทั้งวิสัยทัศน์ แล้วก็ราคาค่าจ้างด้วย คือเราไม่อยากให้เขามารับงานพอหมดหน้าที่แล้วก็ไป เขาต้องสร้างต่อให้เราได้ประโยชน์ในระยะยาวด้วย เราจะไม่ทำเหมือนสมัยก่อนอย่างเช่นยุคของปีเตอร์ วิธ ที่ให้เขาทำแบบอิสระไม่มีการตรวจสอบอะไรเลย พอเขาไปเราก็ไม่เหลือองค์ความรู้อะไรที่มันต่อยอดได้เลย
ผม : พี่เฮงคือคนตัดสินใจใช่มั้ยครับว่าจะเอาใคร หรือเป็นกลุ่มสภากรรมการ
โค้ชเฮง : ผมต้องเป็นคนสกรีนก่อนว่าคนไหนที่ใช่ แล้วค่อยทำเรื่องส่งให้บอร์ดพิจารณา ก่อนทำการเซ็นสัญญากันครับ
ผม : พี่เฮงสนใจวินเฟรด เชฟเฟอร์ มั้ยครับ เห็นเขาแสดงออกชัดเจนมากว่าอยากรับงานนี้ แล้วก็เริ่มออกตระเวนดูบอลลีกไทยแล้ว
โค้ชเฮง : ผมชอบหลายคนเลยล่ะครับ วินนี่ผมก็อยากร่วมงานด้วย แต่ก็ต้องมาดูวิสัยทัศน์ของเขาก่อน ว่าเหมาะสมหรือเปล่า
ผม : ค่าจ้างแต่ละคนที่เสนอมาแพงมากมั้ยครับ
โค้ชเฮง : ก็มีหลายระดับแต่ไม่แพงอย่างที่คิดหรอก เพราะโดยปกติแล้วโค้ชจะได้ค่าจ้างน้อยกว่านักเตะเยอะอยู่แล้ว
ผม : มีกำหนดสเป็คไว้มั้ยครับว่าต้องมีผลงานระดับไหนมาก่อน
โค้ชเฮง : จริงๆผมก็ชอบคนที่เคยเป็นนักเตะที่เคยไปฟุตบอลโลกมาแล้วรวมถึงพอเป็นโค้ชก็พาทีมไปเตะบอลโลกด้วยเช่นกัน เพราะถือว่าเขาผ่านจุดนั้นมาแล้ว รวมไปถึงเรื่องคอนเน็คชั่นก็สำคัญ อย่างตัวผมเคยเล่นที่ญี่ปุ่นและเยอรมัน เราก็สามารถจะพอหาช่องทางส่งนักเตะไทยไปฝึกหรือเล่นที่นั่นได้
ผม : จริงไหมครับที่โค้ชโย่งจะได้เป็นผู้ช่วยของชุดใหญ่
โค้ชเฮง : โย่งเขาต้องทำงานร่วมกับทีมชุดใหญ่อยู่แล้วครับเพราะทีมมันคาบเกี่ยวกัน แต่เราก็เปิดสัมภาษณ์ให้โค้ชที่มีความต้องการเข้ามาทำหน้าที่ผู้ช่วยมาคุยหลายคนแล้ว ซึ่งก็คงจะต้องตั้งผู้ช่วยโค้ชคนไทยที่ทำงานฟูลไทม์อีกคน
ผม : ไม่ห่วงเรื่องคลื่นใต้น้ำหรอครับ เพราะในหลายสโมสรก็มีปัญหาโค้ชต่างชาติทำงานยากเพราะผู้ช่วยโค้ชไทยเข้ากับนักเตะได้มากกว่าจนโค้ชต่างชาติถูกมองข้ามไป
โค้ชเฮง : ไม่ห่วงครับ เพราะเราต้องการคนที่เข้ามาเพื่อสนับสนุนไม่ใช่คนที่เข้ามาเพื่ออยากสร้างโปรไฟล์ให้ตัวเอง สิ่งที่เราเป็นห่วงก็คือเรื่องวินัยและความเข้าใจแท็กติกของนักเตะมากกว่าว่าจะปรับตัวได้มั้ย คือต่อไปนี้เราจะไม่มีการเลื่อนลีกให้ทีมชาติเก็บตัวเป็นเดือนอีกแล้ว ทางฝ่ายจัดบอลลีกเขาไม่ยอม ต่อไปทีมชาติจะเรียกตัวได้ตามกติกาฟีฟ่าคือ 5-7 วันเท่านั้น ซึ่งนักเตะก็ต้องมีพื้นฐานการพัฒนามาจากสโมสร โค้ชทีมชาติมีหน้าที่เลือกผู้เล่นมาใช้งานตามแท็กติกเท่านั้น
ผม : น่าจะได้โค้ชคนใหม่เมื่อไหร่ครับ
โค้ชเฮง : โดยเร็วที่สุดครับ อย่างที่บอกคือโค้ชใหม่ต้องมีเวลาไปดูนักเตะด้วย เพราะเขาจะเป็นคนเลือกผู้เล่น เราจะไม่ไปยุ่งในการเลือกตัวของเขาเลย เพราะฉะนั้นต้องให้เขาได้มีเวลาเข้ามาทำงานครับ
ผม : หลังจากที่พี่ซิโก้ออกจากตำแหน่งโค้ชไป ได้คุยกันกับพี่เฮงบ้างหรือยัง ความสัมพันธ์เป็นยังไงบ้างครับ
โค้ชเฮง : ยังไม่ได้คุยกันเลย แต่เดี๋ยวผมก็ต้องพาซิโก้ไปสอบโปรไลเซ่นที่ญี่ปุ่น ต้องเจอกันอยู่แล้ว ผมไม่ได้โกรธอะไรเขาเลยนะ ผมว่าทุกคนต้องช่วยกันพัฒนาบอลไทยมากกว่าที่จะมาทะเลาะกัน ซิโก้เขาคงจะพูดไปด้วยอารมณ์จากการถูกถามมากกว่า ตอนนี้เขาก็น่าจะคิดได้แล้วล่ะ ยังไงเราอยู่ในวงการฟุตบอลไทยด้วยกันคุยกันได้อยู่แล้วครับ ยังไงก็หนีกันไม่พ้น แล้วคนที่รู้จักผมจะเข้าใจว่าถึงแม้ผมจะมานั่งตำแหน่งประธานเทคนิค ก็ไม่ได้จะต้องทำตัวใหญ่โต ยิ่งใหญ่อะไร ผมก็ยังเป็นเหมือนเดิมครับ
ผม : ทราบมาว่าพี่เฮงคือคนแนะนำให้ท่านนายกต่อสัญญากับพี่ซิโก้ จริงๆเรื่องเป็นยังไงครับ
โค้ชเฮง : ใช่ครับ ผมอยากให้การทำงานมันต่อเนื่อง โค้ชทุกๆคนแหละครับเราต้องมาดูว่าเราชนะเพราะอะไรแพ้เพราะอะไรไม่ใช่พอผลงานไม่ดีก็เปลี่ยนโค้ชแบบนั้นไม่เกิดการพัฒนาครับ โค้ชทุกคนก็ต้องมีการทำงานร่วมกันกับฝ่ายเทคนิคและสมาคม ผมไม่เคยไปบอกให้สมาคมปลดโค้ชคนไหนทั้งสิ้นครับ
วันนี้พอเท่านี้ก่อน ยังมีบทสนทนาที่น่าสนใจอีกหลายเรื่องโดยเฉพาะการทำงานของเอคโคโน่ เดี๋ยวไว้มาเล่าต่อครั้งหน้าครับ

ที่มา : 
https://www.facebook.com/DJManFM97/posts/10154556976862951

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น