วันที่ 26 เมษายน พ.ศ. 2560 เวลา 12.30 น. คุณ วิทยา เลาหกุล อุปนายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ฝ่ายพัฒนาเทคนิค และ คุณ พาทิศ ศุภะพงษ์ รองเลขาธิการฝ่ายต่างประเทศและโฆษกสมาคมฯ ชี้แจง เรื่องการแต่งตั้ง มิโลวาน ราเยวัช เป็นหัวหน้าผู้ฝึกสอนฟุตบอลชายทีมชาติไทย
สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ได้แต่งตั้ง มิโลวาน ราเยวัช เป็นหัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทย คนใหม่ พร้อมทีมงานผู้ฝึกสอนประกอบไปด้วย เนบอยซา สตาเมนโควิช (ฟิตเนสโค้ช), ซาซ่า โทดิช (โค้ชผู้รักษาประตู) และ โซรัน ยานโควิช (ผู้ช่วยผู้ฝึกสอน) ตั้งแต่ วันที่ 4 พฤษภาคม พ.ศ.2560 เป็นต้นไป
คุณวิทยา เลาหกุล กล่าวว่า "ก่อนอื่นต้องขอโทษสื่อมวลชนทุกท่าน ที่จัดการแถลงข่าวอย่างกะทันหัน จริงๆ ทางคุณ พาทิศ ศุภะพงษ์ ได้แจ้งกับผม ผมก็พร้อมจะตอบคำถามแก่ทุกท่าน นอกจากนี้ ผมต้องขอขอบคุณโค้ชทุกท่านที่เดินทางมาสมัครตำแหน่งดังกล่าว แต่ว่าเราก็พิจารณาคนที่มีความตั้งใจจริงที่จะพัฒนาฟุตบอลไทย"
"สำหรับสัญญาของมิโลวาน ราเยวัช ก็อยู่ที่ 1+1 ปี ส่วนเรื่องค่าเหนื่อย ทางสมาคมฯ ก็มีงบให้สูง ทุกคนที่เข้ามาก็ไม่ได้โฟกัสเรื่องรายได้ เพราะทุกคนต่างต้องการพิสูจน์ตัวเองมากกว่า ฟุตบอลไทยกำลังอยู่ในช่วงเปลี่ยนแปลง ซึ่งเป็นผลดีกับเขาในการสร้างโปรไฟล์ และยกระดับของตัวเองขึ้นมา"
"เรามีคนเข้ามาสมัครเยอะมาก แต่เราเลือกมิโลวาน ราเยวัช เพราะเป็นเรื่องของวิสัยทัศน์ และคุ้นเคยกับฟุตบอลเอเชีย และที่สำคัญคือกลุ่มสตาฟฟ์ของเขาเป็นคนที่มีความสามารถและดีกว่าคนอื่นๆที่เข้ามา ส่วนเรื่องที่ผ่านๆมาของเขานั้น มันเป็นปัญหาเล็กๆน้อยๆ ที่เกิดขึ้นได้ทั่วโลก ในการดูแลผู้เล่นระดับซูเปอร์สตาร์ ซึ่งผมคิดว่าปัญหาตรงนี้คงไม่เกิดขึ้นในประเทศไทย"
"เรื่องภาษาเขาไม่ได้ใช้ภาษาอังกฤษมาหลายปี ที่สัมภาษณ์เขาก็พูดภาษาอังกฤษพอใช้ได้คิดว่าสำคัญที่สุดคือสตาฟฟ์แต่ละคนสามารถพูดได้หลายภาษา ส่วนเรื่องภาษาฟุตบอลคงไม่มีปัญหาแน่นอน เขาคุ่นเคยกับฟุตบอลเอเชีย เขาเป็นคนที่มีประสบการณ์เยอะมาก ผมว่าตรงนี้ เขามีฟุตบอลเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต"
"การประเมินเราก็จะประเมินเขาทุกวัน ซึ่งนอกจากผลการแข่งขันแล้วเราจะประเมินเรื่องของแนวทางการเล่นด้วย ตรงนี้ผมเชื่อว่าด้วยประสบการณ์ของเขาและสตาฟฟ์ เราจะเห็นการเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางที่ดี วิสัยทัศน์ของเขาคือจุดเด่นของเขา เขารู้จุดแข็งและจุดอ่อนของฟุตบอลไทย และที่ผ่านมาก็ได้เดินทางไปชมเกมฟุตบอลไทย ทั้งที่ยังไม่ได้รับเลือกเป็นหัวหน้าผู้ฝึกสอน ซึ่งผมเห็นความตั้งใจของเขาตรงนี้"
"ผู้เล่นที่เล่นให้เขา สามารถยอมตายในสนามให้เขาได้ ตรงนี้เป็นสิ่งที่เขามีจิตวิทยา และที่สำคัญคือแนวทางการเล่นของเขาไม่ใช่แค่เอาชนะคู่ต่อสู้อย่างเดียว แต่เขามีแนวทางการเล่นที่น่าตื่นตาตื่นใจ นั่นเป็นสิ่งที่เราต้องการ ซึ่งเราจะมีการประกาศแต่งตั้งอย่างเป็นทางการในวันที่ 4 พฤษภาคม"
"ส่วนเวลาเริ่มงาน การคุมซ้อมต้องดูเรื่องเวลา สิ่งที่เขาต้องรีบทำคือมองหาผู้เล่นที่เหมาะกับแนวทางของเขา และเขาก็ได้ทำการบ้านไป มันจะมีนักฟุตบอลหลายคนที่เราคงจะแปลกใจกับนักเตะที่เข้ามาใหม่ วันนั้นเราได้คุยกับเขาอีกครั้ง เขาได้เห็นนักฟุตบอลที่ฝีเท้าดีมากแต่ยังไม่เคยติดทีมชาติเลย ซึ่งตรงนี้จะเป็นสิ่งที่ใหม่ และสร้างแรงจูงใจสำหรับนักฟุตบอลที่โชว์ฟอร์มในลีกด้วย"
"เราไม่ได้ส่งอะไรให้เขาก่อนหน้านี้ แต่เขามีข้อมูลฟุตบอลไทยทั้งเรื่องจุดอ่อน จุดแข็ง โดยเฉพาะการเล่นเกมรุกแต่ไม่ชอบเล่นเกมรับ เมื่อเสียบอล แผงหลังไม่รู้จะทำอย่างไร ช่องว่างระหว่างตำแหน่งในเกมการเล่น ซึ่งเป็นเรื่องของแท็คติก สิ่งที่เขาพูดมาตรงกับข้อมูลที่ฝ่ายเทคนิคทำมา และเมื่อเขาเห็นข้อบกพร่อง ทำให้เราเชื่อว่าว่าเขาจะสามารถแก้ไขปัญหาได้แน่นอน นอกจากนี้เรายังให้คอนเซปต์แก่เขา คอนเซปต์ของเราคือการส่งผ่านอย่างรวดเร็ว ตรงนี้เขาต้องทำตามคอนเซปต์ของฟุตบอลไทยด้วย ซึ่งเขาก็เข้าใจตรงนี้ด้วย"
"ในเมื่อแฟนบอลชาวไทยคาดหวังในฟุตบอลไทยสูง แต่ผมต้องบอกตรงๆว่าผลการแข่งขันคืออันดับสอง แนวทางการเล่นจะมาก่อน ถ้าเรามีแนวทางการเล่นที่ดี สุดท้ายผลการแข่งขันที่สม่ำเสมอก็จะเกิดขึ้น เราต้องให้ข้อมูลและเขาก็มีข้อมูล ถ้าเราเห็นทีมชาติไทยชุดนี้ หลายคนยังอายุน้อย เฉลี่ยอยู่ที่ 23-24 ปี แล้วขีดความสามารถก็สูง เขาเป็นนักจิตวิทยาที่ดี มันก็จะเป็นสิ่งที่เพิ่มขีดความสามารถของนักฟุตบอลได้ดี สตาฟฟ์โค้ชเขาก็มีความสามารุและประสบการณ์สูง เมื่อรวมกับจิตวิทยาในห้องแต่งตัวในช่วงการแข่งขัน และสตาฟฟ์โค้ชที่คอยหาข้อบกพร่อง มันจะกลายเป็นจุดแข็งของฟุตบอลไทยในอนาคต"
"การเลือกมิโลวาน ราเยวัช ผมกับ คุณพาทิศ ศุภะพงษ์ ได้สัมภาษณ์โค้ชทุกคนที่เข้ามาและรายงานให้กับ นายกสมาคมฯ (พล.ต.อ. สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง) ซึ่งเราก็ตัดสินใจร่วมกัน"
Cr.FA Thailand
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น