"ช้างศึก" เนื้อหอมไม่เลิก "จานฟรังโก โซลา" อดีตดาวเตะทีมชาติอิตาลีและเชลซี ร่วมเสนอตัวขอคุมทัพด้วย ด้าน "โค้ชเฮง" ยืนยัน ต้องคัดคนที่เหมาะสมที่สุดเข้ามารับหน้าที่ "เฮดโค้ช" ทีมชาติ ยืนยัน สัปดาห์หน้าได้รู้กันแน่นอนว่าใครจะเข้ามารับงานใหญ่นี้ ชี้ สถิติบ่งชัดว่าการเป็นนักเตะดังในอดีต ไม่ใช่เครื่องการันตีว่าจะประสบความสำเร็จในฐานะโค้ชแต่อย่างใด
ความคืบหน้าการแต่งตั้งหัวหน้าผู้ฝึกสอน "ช้างศึก" ทีมชาติไทย คนใหม่ หลังจากที่ "โค้ชซิโก้" เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง ได้ประกาศยุติบทบาทหัวหน้าผู้ฝึกสอน ไปแล้ว โดยที่ผ่านมามีผู้ฝึกสอนชื่อดังหลายคนได้เข้ามาสมัครงานกับสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ อาทิ "วินนี่" วินฟรีด เชเฟอร์ อดีตกุนซือทีมชาติไทย, เรเน มูเลนสตีน อดีตผู้ช่วยผู้ฝึกสอน เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน รวมทั้ง แฟรงค์ ไรจ์การ์ด และ คาร์ลอส ดุงกา ฯลฯ เป็นต้น นั้น
ล่าสุด "โค้ชเฮง" วิทยา เลาหกุล ประธานพัฒนาเทคนิค สมาคมกีฬาฟุตบอลฯ เปิดเผยว่า ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมามีโค้ชที่เป็นอดีตนักเตะชื่อดังระดับโลก เข้ามาคุยกับสมาคมฯ แล้วหลายคน ล่าสุดคือ จานฟรังโก โซลา อดีตนักเตะทีมชาติอิตาลีและเชลซี ได้เข้ามาเสนอแผนการทำงาน แต่ตอนนี้เรายังไม่ตัดสินใจเลือกใครแต่อย่างใด ซึ่งจริงๆ แล้ว สมาคมฯ อยากได้โค้ชทีมชาติคนใหม่เข้ามรับหน้าที่หลังเทศกาลสงกรานต์ทันที แต่เท่าที่มีการพูดคุยกับหลายๆ คนยอมรับว่ายังไม่ตรงกับที่วางเป้าหมายไว้ อย่างไรก็ตาม ภายในสัปดาห์หน้าจะสัมภาษณ์โค้ชอีก 2-3 คน จากนั้นจะตัดสินใจเลือกว่าใครเหมาะสมกับการทำงานทีมชาติไทยมากที่สุด ซึ่งสัปดาห์หน้าจะได้ชื่อหัวหน้าโค้ชคนใหม่อย่างแน่นอน
"โค้ชเฮง" กล่าวต่อว่า การที่สมาคมฯ ยังไม่ตัดสินใจเลือกใครนั้นเป็นเพราะว่าโค้ชที่เข้ามาเสนอตัวนั้นยังไม่เข้าใจระบบวัฒนธรรมของไทย ซึ่งอาจจะเป็นปัญหาในการทำงานได้ นอกจากนี้ส่วนตัวก็ไม่ชอบคนที่เข้ามายกยอตัวเองพร้อมกับดิสเครดิตโค้ชคนอื่น และเกือบทุกคนที่พูดคุยมาล้วนแต่เป็นคนลักษณะอย่างนี้ทั้งสิ้น ผมมองว่าการเป็นโค้ชควรให้ความเคารพคนอื่นมากกว่าการยกตนข่มท่าน ขณะเดียวกันไม่ใช่ว่าเราไม่ศึกษาโค้ช เพราะก่อนที่จะเข้ามาพูดคุยกัน ทีมงานของเราได้ศึกษาการทำงานของเขามาแล้วว่าเคยทำอะไรมาบ้างประสบความสำเร็จมากน้อยเพียงใด
"ที่ผมไม่เห็นด้วยกับการเอาอดีตนักเตะชื่อดังมาเป็นโค้ช เพราะมีสถิติที่ทั่วโลกให้การยอมรับอย่างหนึ่งก็คือการเป็นนักเตะที่โด่งดังระดับโลกส่วนมากแล้วมักจะทำผลงานในฐานะโค้ชไม่ค่อยประสบความสำเร็จ แต่ถ้าสุดท้ายแล้วไม่มีตัวเลือกที่ดีกว่าเราคงต้องตัดสินใจเลือกคนใดคนหนึ่งที่ได้พูดคุยไปแล้ว เพื่อจะได้ดูการทำงานของเขา เพราะเรายังเหลือโปรแกรมแข่งในฟีฟ่าเดย์ รวมถึงฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก โซนเอเชีย ให้ลงเล่นอีกประมาณ 7-8 นัด นั่นเพียงพอที่จะเป็นเครื่องพิสูจน์ว่าเราควรต่อสัญญาหรือไม่ เนื่องจากอีก 2 ปีข้างหน้า ทีมชาติไทยจะต้องเล่นฟุตบอลชิงแชมป์เอเชีย รอบสุดท้าย เราต้องได้โค้ชที่มีฝีมือมากพอพาทีมประสบความสำเร็จ" โค้ชเฮง กล่าว
Cr.Dailynews
ที่มา http://sport.dailynews.co.th/news/103257
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น