วันพฤหัสบดีที่ 27 เมษายน พ.ศ. 2560

ประวัติทีมผู้ฝึกสอนทีมชาติไทยของราเยวัช ตอนที่ 3

เนบอยซา สตาเมนโควิช (Nebojša Stamenković) ฟิตเนสโค้ชทีมชาติไทย



เนบอยซา สตาเมนโควิช โค้ชชาวเซอร์เบียที่มีประสบการณ์ปั้นนักเตะเยาวชนมามากมาย จะเข้ามาเป็นหนึ่งในทีมงานผู้ฝึกสอนของทีมชาติไทย ที่จะทำหน้าที่เคียงข้าง มิโลวาน ราเยวัช หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมช้างศึกคนใหม่ ลุยศึกฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก โซนเอเชีย รอบ 3 ที่ไทยยังเหลือการแข่งขันอีกสามนัด
โค้ชชาวเซอร์เบียวัย 35 ปีรายนี้ เกิดที่ เทนเนสซี ประเทศสหรัฐอเมริกา โดย สตาเมนโควิช เติบโตและเริ่มเล่นฟุตบอลที่นั่น โดยลงเล่นให้กับทีมเยาวชนในสหรัฐอเมริกาตั้งแต่ปี 2006 ถึง 2010 ไม่ว่าจะเป็น เอ็นเจ ไอรอนแมน (ค่ายซัมเมอร์), เคลฟเวอร์แลนด์ ยูไนเต็ด U16, U18, U19, จีวี อคาเดมี และ นิว บรุนส์วิก ซอคเกอร์ คลับ
ในปี 2010 สตาเมนโควิช ได้หันมาศึกษาการคุมทีม รวมถึงการพัฒนานักเตะอย่างจริงจัง โดยเขาได้เข้าไปทำงานกับสโมสร เอฟซี เรด เบลเกรด และดูแลทีมในทุกระดับของสโมสร
สตาเมนโควิช เริ่มจากการเป็นผู้ช่วยโค้ชฝ่ายพัฒนาของสโมสรในชุด U21 และลงมาเป็นผู้ช่วยโค้ช U19 ในปี 2012 - 2014 ซึ่งในช่วงระยะเวลาดังกล่าว เอฟซี เรด เบลเกรด U19 คว้าแชมป์ในฤดูกาล 2013/14
จากผลงานที่ยอดเยี่ยมของ สตาเมนโควิช ทำให้สโมสรตัดสินใจให้เขาทำหน้าที่เฮดโค้ชอย่างเต็มตัวในระดับ U15 ซึ่ง สตาเมนโควิช ก็ไม่ทำให้ทีมผิดหวัง โดยเขาพาแข้ง U15 คว้าแชมป์มาครองได้ในปี 2014/15
ด้วยผลงานที่เข้าตากับทีม U15 ทำให้สโมสรไว้วางใจให้เขาขึ้นมาเป็นหัวหน้าผู้ฝึกสอนรุ่น U19 ในปี 2016 สุดท้าย สตาเมนโควิช ได้ขึ้นไปเป็นผู้ช่วยโค้ชทีมชุดใหญ่ของ เอฟซี เรด เบลเกรด ก่อนจะเข้ามาทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยโค้ชของทัพช้างศึกในปี 2017 นี้
ประวัติของ เนบอยซา สตาเมนโควิช (Nebojša Stamenković) ฟิตเนสโค้ชทีมชาติไทย
ประวัติส่วนตัว
วัน/เดือน/ปีเกิด : 29 ธันวาคม 1982 (อายุ 35 ปี)
สถานที่เกิด : เทนเนสซี, สหรัฐอเมริกา
การศึกษา : UEFA “A” Coaching Licence, ผู้ช่วยวิทยากรการอบรม UEFA “B” Coaching Course ของสมาคมฟุตบอลเซอร์เบีย, นักวิเคราะห์เทปการแข่งขัน (พาวเวอร์ ไดเรคเตอร์)
ภาษา : อังกฤษ, เซอร์เบียน
ประวัติการค้าแข้งที่สหรัฐอเมริกา (2006 - 2010)
เอ็นเจ ไอรอนแมน (ค่ายซัมเมอร์)
เคลฟเวอร์แลนด์ ยูไนเต็ด U16, U18, U19
จีวี อคาเดมี
นิว บรุนส์วิก ซอคเกอร์ คลับ
ประวัติการทำงาน (เอฟซี เรด เบลเกรด 2010 - 2017)
2010 ผู้ช่วยโค้ชฝ่ายพัฒนาของสโมสรในชุด U21
2012 - 2014 ผู้ช่วยโค้ช U19 (คว้าแชมป์ในฤดูกาล 2013/14)
2014 - 2016 เฮดโค้ช U15 (คว้าแชมป์ในฤดูกาล 2014/15)
2016 - 2017 เฮดโค้ช U19 
2017 ผู้ช่วยโค้ชทีมชุดใหญ่
นักเตะอาชีพที่เคยฝึก
Spajic Uros : อันเดอร์เลช (เบลเยียม), ทีมชาติเซอร์เบีย U23
Darko Lazic : Anzhi Makhachkala (รัสเซีย), ทีมชาติเซอร์เบีย U23
Kovacevic Aleksandar : FC Legia Gdanjsk, ทีมชาติเซอร์เบีย U23
Jovanovic Vukasin : FC Girondis de Bordeaux (ฝรั่งเศส), ทีมชาติเซอร์เบีย U21 (แชมป์ฟุตบอลโลก U20 ปี 2015 ที่ นิวซีแลนด์)
Causic Goran : ซีเอ โอซาซูน่า (สเปน), ทีมชาติเซอร์เบีย U23
Dmitrovic Boban : Ujpest (ฮังการี), ทีมชาติเซอร์เบีย U23
Grujic Marko : ลิเวอร์พูล (อังกฤษ), ทีมชาติเซอร์เบีย U21 (แชมป์ฟุตบอลโลก U20 ปี 2015 ที่ นิวซีแลนด์)

Cr.FA Thailand

ประวัติทีมผู้ฝึกสอนทีมชาติไทยของราเยวัช ตอนที่ 2

ซาซ่า โทดิช (Saša Todić) ตำแหน่งโค้ชผู้รักษาประตูทีมชาติไทย


ซาซ่า โทดิช อดีตผู้รักษาประตูชาวเซอร์เบีย ที่ผันตัวเองขึ้นมาเป็นโค้ชผู้รักษาประตู หลังจากแขวนถุงมือ โดยล่าสุด โทดิช จะเข้ามาเป็นหนึ่งในสามผู้ช่วยโค้ชของทีมชาติไทย และจะทำหน้าที่เคียงข้าง มิโลวาน ราเยวัช หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมช้างศึกคนใหม่ ลุยศึกฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก โซนเอเชีย รอบ 3 ที่ไทยยังเหลือการแข่งขันอีกสามนัด
โค้ชผู้รักษาประตูชาวเซอร์เบียวัย 43 ปีรายนี้ เกิดที่ Zrenjanin, ยูโกสลาเวีย (ประเทศเซอร์เบีย) แม้ว่าจะไม่เคยติดทีมชาติเลยในขณะนั้น แต่ โทดิช มีประสบการณ์เฝ้าเสากับหลายๆทีมในลีกเซอร์เบีย ตั้งแต่การลงเล่นกับสโมสรแรกในชีวิตอย่าง Proleter Zrenjanin (เซอร์เบีย) โดยตลอดระยะเวลา 7 ปี โทดิช ลงเล่นให้ Proleter Zrenjanin ไปถึง 128 นัดด้วยกัน
นอกจากนี้ เขายังสร้างชื่อกับ Vojvodina (เซอร์เบีย) ด้วยการลงเฝ้าเสาไปทั้งหมด 153 นัด ก่อนที่จะย้ายไปเล่นในลีกยูเครนกับ Tavriya Simferopol แล้วย้ายกลับมายังประเทศบ้านเกิดกับ Novi Sad ที่โทดิชเป็นทั้งผู้รักษาประตูและผู้ช่วยโค้ชในเวลาเดียวกัน
หลังจากแยกทางกับ Novi Sad โทดิช ได้หันมาเริ่มเส้นทางโค้ชผู้รักษาประตูอย่างจริงจัง โดยเขากลับไปยังสโมสรเก่า Vojvodina ในปี 2011 และเป็นโค้ชผู้รักษาประตูที่นั่น และในปี 2014 โทดิช รับหน้าที่โค้ชผู้รักษาประตูที่ Al-Fujairah สโมสรในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี) ก่อนที่จะย้ายกลับไปยัง Vojvodina อีกครั้งในปี 2016 และล่าสุดปี 2017 นี้ ซาซ่า โทดิช จะเข้ามาทำหน้าที่เป็นโค้ชผู้รักษาประตูของทัพช้างศึก
ประวัติของ ซาซ่า โทดิช (Saša Todić) โค้ชผู้รักษาประตูทีมชาติไทย
ประวัติส่วนตัว
วัน/เดือน/ปีเกิด : 26 มีนาคม 1974 (อายุ 43 ปี)
สถานที่เกิด : Zrenjanin, ยูโกสลาเวีย (เซอร์เบีย)
ความสูง : 187 เซนติเมตร
การศึกษา : Higher Coaches School, UEFA “A” Licence, AFC Goalkeeper Coaching Certificate Level 1
ภาษา : อังกฤษ, รัสเซีย, เซอร์เบียน
ประวัติการค้าแข้ง (สโมสร)
1993 - 2000 Proleter Zrenjanin
1994 - 1995 Jastrebac Niš (ยืมตัว)
2000 - 2005 Vojvodina
2006 - 2008 Tavriya Simferopol
2009 Krymteplytsia Molodizhne
2010 - 2011 Novi Sad
ประวัติการทำงาน
2010 - 2011 Novi Sad (ผู้ช่วยโค้ช)
2011 - 2014 Vojvodina (โค้ชผู้รักษาประตู)
2014 - 2016 Al-Fujairah (โค้ชผู้รักษาประตู)

2016 Vojvodina (โค้ชผู้รักษาประตู)

Cr.FA Thailand

ราเยวัช หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทย ส่งคลิปวีดีโอทักทายแฟนบอลชาวไทย



"โค้ชมิโล" มิโลวาน ราเยวัช หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทย ส่งคลิปวีดีโอจากบ้านเกิดประเทศเซอร์เบีย ทักทายแฟนบอลชาวไทย หลังได้รับการแต่งตั้ง ก่อนจะเดินทางมาประเทศไทย เพื่อเริ่มงานวันที่ 4 พฤษภาคม 2560
..................................................................
"Coach Milo" Milovan Rajevac, Thailand national football team head coach, sends his greetings to Thailand fans, before he travels to Thailand to commence his work on the 4th of May 2017.

ที่มา https://www.youtube.com/watch?v=zEw8M9gf0Os&feature=youtu.be
Cr.FA Thailand

วันพุธที่ 26 เมษายน พ.ศ. 2560

ประวัติ มิโลวาน ราเยวัช (Milovan Rajevac) หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทย

หลังจากตำแหน่งหัวหน้าผู้ฝึกสอนฟุตบอลชายทีมชาติไทย ชุดใหญ่ว่างลง ตั้งแต่เมื่อวันที่ 3 เมษายน พ.ศ. 2560 สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ก็ได้ทำการสรรหาหัวหน้าผู้ฝึกสอนคนใหม่ทันทีเพื่อให้การเตรียมทีมสำหรับการแข่งขันรายการต่างๆ ที่เหลืออยู่เป็นไปอย่างต่อเนื่อง

สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ได้ใช้ระยะเวลาเกือบ 1 เดือนในการเปิดโอกาสให้ผู้ฝึกสอนจากทั่วโลกที่มีความสามารถและแสดงความต้องการอยากเข้ามาทำหน้าที่หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทย ได้ยื่นประวัติการทำงานทั้งผ่านตัวแทนการเจรจา(เอเย่นต์ หรือการเดินทางมาเสนอแผนการทำงานด้วยตัวเอง เพื่อคัดเลือกบุคคลที่เหมาะสมที่สุดในการนำพาทีมชาติไทย เดินหน้าไปในทิศทางที่ถูกต้อง
ในการนี้ สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย จึงขอประกาศว่า ผู้ฝึกสอน มิโลวาน ราเยวัช ชาวเซอร์เบีย ได้รับการคัดเลือกเพื่อทำสัญญาเป็นหัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทย คนใหม่ พร้อมทีมงานผู้ฝึกสอนประกอบไปด้วย เนบอยซา สตาเมนโควิช (ฟิตเนสโค้ช), ซาซ่า โทดิช (โค้ชผู้รักษาประตู) และ โซรัน ยานโควิช (ผู้ช่วยผู้ฝึกสอน)  ตั้งแต่ วันที่ 4 พฤษภาคม พ.ศ.2560 เป็นต้นไป
ผู้ฝึกสอน มิโลวาน ราเยวัช ได้เข้ามาเสนอแผนงานการทำทีมที่ สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย เมื่อวันที่ 18 เมษายน 2560  ซึ่งสมาคมฯ ได้พิจารณาจากการนำเสนอแนวทาง ปรัชญาการทำทีม ความพร้อมในการทำงาน รวมถึงทีมงานที่จะนำมาร่วมทำงานด้วยแล้ว เห็นว่าเป็นบุคคลที่้เหมะสมที่สุดสำหรับการทำหน้าที่หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทยคนใหม่
อย่างไรก็ตาม สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ต้องขอขอบคุณผู้ฝึกสอนทุกท่านรวมถึงตัวแทนการเจรจา(เอเย่นต์) ที่ยื่นความจำนงค์ หรือเดินทางมาพูดคุยกับสมาคมฯ ทุกๆท่านได้แสดงวิสัยทัศน์ที่ยอดเยี่ยม  ซึ่งทางสมาคมฯหวังว่าจะมีโอกาสได้ร่วมงานกันในอนาคต 
ทั้งนี้ในเวลา 12.30 น. วิทยา เลาหกุล อุปนายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ฝ่ายพัฒนาเทคนิค จะแถลงข่าวเรื่องการแต่งตั้ง มิโลวาน ราเยวัช หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทยคนใหม่ ณ ที่ทำการสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย 
ประวัติ มิโลวาน ราเยวัช (Milovan Rajevac) หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทย
มิโลวาน ราเยวัช เกิดเมื่อวันที่ 2 มกราคม พ.ศ. 2497 ที่เมือง Cajetina ยูโกสลาเวีย ปัจจุบัน ราเยวัช อายุ 63 ปี
ราเยวัช จบจาก มหาวิทยาลัยเบลเกรด และเป็นผู้เชี่ยวชาญในการฟื้นฟูทีมและสร้างนักเตะระดับเยาวชนของเซอร์เบีย ปัจจุบัน ราเยวัช ถือ ฟีฟ่า โปร ไลเซนส์ ฟุตบอลระดับสูง (FIFA Profi License Superior Football, Sport and Education)
ในสมัยที่ ราเยวัช เป็นนักฟุตบอล เขาเล่นในตำแหน่งกองหลัง โดยกุนซือวัย 63 ปี เคยค้าแข้งกับสโมสรต่างๆ เช่น Borac Čačak, Red Star Belgrade, Vojvodina, Lunds BK, New York Arrows และ Sloboda Užice
หลังจากแขวนสตั๊ด ราเยวัช ก็ผั่นตัวมาเป็นกุนซือ โดยเริ่มคุมทีมระดับสโมสรในเซอร์เบีย ไม่ว่าจะเป็น Sloboda Užice, Red Star Belgrade, Vojvodina และ Borac Čačak
มิโลวาน ราเยวัช เปลี่ยนมาคุมทีมชาติครั้งแรกในปี 2008 โดยเริ่มคุมทีมชาติกาน่าในปีดังกล่าว
ราเยวัช ได้พาทีมชาติกาน่าผ่านเข้าไปเล่นฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายได้สำเร็จในปี 2010 และจารึกประศาสตร์ ด้วยการพากาน่าผ่านเข้าไปเล่นในรอบ 8 ทีมสุดท้ายในปีดังกล่าว ซึ่งเป็นครั้งแรกที่ทีมชาติกาน่าผ่านเข้าสู่รอบนี้ตั้งแต่เล่นในรายการนีมา
นอกจากนี้ ราเยวัช ยังพากาน่า ทะลุเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศฟุตบอลรายการ แอฟริกัน คัพ เนชั่น ในปี 2010 และเข้าชิงรายการ แอฟริกัน คัพ ในปี 2009
ในช่วงเวลาที่เขาคุมทีมชาติกาน่า ไม่ใช่แค่พาทีมประสบความสำเร็จเท่านั้น ราเยวัช ยังปั้นนักเตะดาวรุ่งหลายๆคนขึ้นมาเป็นเสาหลักของทีมจนถึงปัจจุบัน อย่างไรก็ตาม มิโลวาน ราเยวัช ก็ตัดสินใจย้ายไปคุมทีม อัล อาห์ลี ในปี 2010
โดย ราเยวัช คุมทีม อัล อาห์ลี เป็นเวลาหนึ่งปี ก่อนที่จะกลับมาคุมทีมชาติอีกครั้งกับการ์ตาในปี 2011 แต่ในเดือนสิงหาคมในปีเดียวกัน ราเยวัช ก็ได้ยุติการคุมทีมชาติการ์ตา
ในปี 2011 ราเยวัช เป็นหนึ่งใน 4 กุนซือ ที่มีข่าวเชื่อมโยงกับทีมชาติอียิปต์ และในปี 2014 มีข่าวว่า ราเยวัช เป็นหนึ่งในกุนซือที่มีโอกาสคุมทีมชาติ Burkina Faso
ในขนะที่ปี 2011 - 2015 ราเยวัชได้ทำหน้าที่เป็นวิทยากรให้กับสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศเซอร์เบีย ในระดับ ยูฟ่า โปร ไลเซนส์ ที่ เบลเกรด ประเทศเซอร์เบีย
ในปี 2016 มิโลวาน ราเยวัช ถูกแต่งตั้งให้เป็นผู้จักการทีม Rudar Velenje ในสโลเวเนีย แต่ในปีเดียวกัน เขาก็ได้เข้ารับงานคุมทีมชาติ แอลจีเรีย
Cr.FA Thailand

ประวัติทีมผู้ฝึกสอนทีมชาติไทยของราเยวัช ตอนที่ 1

โซรัน ยานโควิช (Zoran Janković) ตำแหน่งผู้ช่วยผู้ฝึกสอนทีมชาติไทย

โซรัน ยานโควิช อดีตศูนย์หน้าทีมชาติบัลแกเรีย ที่ผันตัวเองขึ้นมาเป็นโค้ชหลังจากแขวนสตั๊ด และล่าสุด ยานโกวิช จะเข้ามาเป็นหนึ่งในสามผู้ช่วยโค้ชของทีมชาติไทย และทำหน้าที่เคียงข้าง มิโลวาน ราเยวัช หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมช้างศึกคนใหม่ ลุยศึกฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก โซนเอเชีย รอบ 3 ที่ไทยยังเหลือการแข่งขันอีกสามนัด
ผู้ช่วยโค้ชชาวเซอร์เบียวัย 43 ปีรายนี้ เกิดที่ อินดียา, ยูโกสลาเวีย (ประเทศเซอร์เบีย) แต่ทว่า ยานโควิช ได้เลือกเล่นให้กับทีมชาติบัลแกเรีย โดยลงเล่นไปทั้งหมด 30 นัด ยิงได้ 2 ประตู และเป็นหนึ่งในทีมบัลแกเรียที่ได้ไปลุยศึกฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป หรือ ยูฟ่า ยูโร ในปี 2004 ที่โปรตุเกส
จากการรับใช้ทีมชาติบัลแกเรีย ยานโควิช กลายเป็นนักเตะคนที่สอง ที่ไม่ได้เกิดในบัลแกเรีย ที่ทำสถิติลงเล่นมากที่สุด ต่อจากเพื่อนร่วมชาติอย่าง เปแดร็ก ปาซิน (Predrag Pazin) และเป็นคนที่สองที่ทำประตูได้ ต่อจาก มาร์เซลินโญ (Marcelinho)
นอกจากเส้นทางทีมชาติแล้ว ในช่วงเวลาการค้าแข้งของเขา ยานโควิช มีประสบการณ์ลงเล่นให้กับ  FK Zeleznik (เซอร์เบีย), FK Vojvodina (เซอร์เบีย), PFC Litex Lovech (บัลแกเรีย), Dalian Shide (จีน), Ethnikos Achana FC (ไซปรัส) และสโมสรสุดท้ายที่ ยานโควิช ลงเล่นก่อนที่จะมาผันตัวมาเป็นโค้ช คือ FK Indija ทีมจากบ้านเกิดของเขาในเซอร์เบีย
ยานโกวิช ยุติบทบาทในฐานะผู้เล่นในปี 2011 โดยตลอดการค้าแข้งเขาลงเล่นไป 304 นัดทำ 126 ประตู หลังจากนั้น FK Indija ทาบทามเขาให้ขึ้นมาเป็นหัวหน้าผู้ฝึกสอนของทีม และ เส้นทางการคุมทีมของเขาก็ได้เริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการ
โซราน ยานโกวิช คุมทีม FK Indija ในปี 2011 ก่อนที่จะย้ายไปคุมทีม FK Banat Zrenjanin ในลีกเซอร์เบียในปี 2012, ในปี 2013 กับ Novi Sad (เซอร์เบีย) และในปีล่าสุด 2016 ยานโกวิช ได้ตัดสินใจข้ามน้ำข้ามทะเลมาคุมทีมในลีกรองของจีน กับทีม Heilongjiang Lava Spring FC ก่อนที่ปี 2017 นี้ เขาจะเข้ามารับหน้าที่เป็นผู้ช่วยโค้ชของทีมชาติไทย
ประวัติของ โซราน ยานโกวิช (Zoran Janković) ผู้ช่วยโค้ชทีมชาติไทย
ประวัติส่วนตัว
วัน/เดือน/ปีเกิด : 8 กุมภาพันธ์ 1974 (อายุ 43 ปี)
สถานที่เกิด : Indija, ยูโกสลาเวีย (เซอร์เบีย)
ความสูง : 180 เซนติเมตร
การศึกษา : ยูฟ่า บี, ยูฟ่า เอ
ไลเซนส์ : ยูฟ่า โปร ไลเซนส์
ภาษา : อังกฤษ, บัลแกเรียน, เซอร์เบียน
ประวัติการค้าแข้ง (สโมสร)
1996 - 1998 Železnik
1998 - 2000 Vojvodina
2000 - 2002 Litex Lovech
2002 - 2007 Dalian Shide
2004 Litex Lovech (ยืมตัว)
2007 - 2008 Litex Lovech
2008 - 2009 Ethnikos Achna
2009 - 2011 Inđija
ประวัติการค้าแข้ง (ทีมชาติ)
2002 - 2007 Bulgaria
ประวัติการคุมทีม
2011 FK Inđija
2012 FK Banat Zrenjanin
2013 Novi Sad
2016 Heilongjiang Lava Spring

โค้ชเฮงชี้แจงเรื่องการแต่งตั้ง มิโลวาน ราเยวัช เป็นหัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทยชุดใหญ่

วันที่ 26 เมษายน พ.ศ. 2560 เวลา 12.30 น. คุณ วิทยา เลาหกุล อุปนายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ฝ่ายพัฒนาเทคนิค และ คุณ พาทิศ ศุภะพงษ์ รองเลขาธิการฝ่ายต่างประเทศและโฆษกสมาคมฯ ชี้แจง เรื่องการแต่งตั้ง มิโลวาน ราเยวัช เป็นหัวหน้าผู้ฝึกสอนฟุตบอลชายทีมชาติไทย

สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ได้แต่งตั้ง มิโลวาน ราเยวัช เป็นหัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทย คนใหม่ พร้อมทีมงานผู้ฝึกสอนประกอบไปด้วย เนบอยซา สตาเมนโควิช (ฟิตเนสโค้ช), ซาซ่า โทดิช (โค้ชผู้รักษาประตู) และ โซรัน ยานโควิช (ผู้ช่วยผู้ฝึกสอน) ตั้งแต่ วันที่ 4 พฤษภาคม พ.ศ.2560 เป็นต้นไป
คุณวิทยา เลาหกุล กล่าวว่า "ก่อนอื่นต้องขอโทษสื่อมวลชนทุกท่าน ที่จัดการแถลงข่าวอย่างกะทันหัน จริงๆ ทางคุณ พาทิศ ศุภะพงษ์ ได้แจ้งกับผม ผมก็พร้อมจะตอบคำถามแก่ทุกท่าน นอกจากนี้ ผมต้องขอขอบคุณโค้ชทุกท่านที่เดินทางมาสมัครตำแหน่งดังกล่าว แต่ว่าเราก็พิจารณาคนที่มีความตั้งใจจริงที่จะพัฒนาฟุตบอลไทย"
"สำหรับสัญญาของมิโลวาน ราเยวัช ก็อยู่ที่ 1+1 ปี ส่วนเรื่องค่าเหนื่อย ทางสมาคมฯ ก็มีงบให้สูง ทุกคนที่เข้ามาก็ไม่ได้โฟกัสเรื่องรายได้ เพราะทุกคนต่างต้องการพิสูจน์ตัวเองมากกว่า ฟุตบอลไทยกำลังอยู่ในช่วงเปลี่ยนแปลง ซึ่งเป็นผลดีกับเขาในการสร้างโปรไฟล์ และยกระดับของตัวเองขึ้นมา"
"เรามีคนเข้ามาสมัครเยอะมาก แต่เราเลือกมิโลวาน ราเยวัช เพราะเป็นเรื่องของวิสัยทัศน์ และคุ้นเคยกับฟุตบอลเอเชีย และที่สำคัญคือกลุ่มสตาฟฟ์ของเขาเป็นคนที่มีความสามารถและดีกว่าคนอื่นๆที่เข้ามา ส่วนเรื่องที่ผ่านๆมาของเขานั้น มันเป็นปัญหาเล็กๆน้อยๆ ที่เกิดขึ้นได้ทั่วโลก ในการดูแลผู้เล่นระดับซูเปอร์สตาร์ ซึ่งผมคิดว่าปัญหาตรงนี้คงไม่เกิดขึ้นในประเทศไทย"
"เรื่องภาษาเขาไม่ได้ใช้ภาษาอังกฤษมาหลายปี ที่สัมภาษณ์เขาก็พูดภาษาอังกฤษพอใช้ได้คิดว่าสำคัญที่สุดคือสตาฟฟ์แต่ละคนสามารถพูดได้หลายภาษา ส่วนเรื่องภาษาฟุตบอลคงไม่มีปัญหาแน่นอน เขาคุ่นเคยกับฟุตบอลเอเชีย เขาเป็นคนที่มีประสบการณ์เยอะมาก ผมว่าตรงนี้ เขามีฟุตบอลเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต"
"การประเมินเราก็จะประเมินเขาทุกวัน ซึ่งนอกจากผลการแข่งขันแล้วเราจะประเมินเรื่องของแนวทางการเล่นด้วย ตรงนี้ผมเชื่อว่าด้วยประสบการณ์ของเขาและสตาฟฟ์ เราจะเห็นการเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางที่ดี วิสัยทัศน์ของเขาคือจุดเด่นของเขา เขารู้จุดแข็งและจุดอ่อนของฟุตบอลไทย และที่ผ่านมาก็ได้เดินทางไปชมเกมฟุตบอลไทย ทั้งที่ยังไม่ได้รับเลือกเป็นหัวหน้าผู้ฝึกสอน ซึ่งผมเห็นความตั้งใจของเขาตรงนี้"
"ผู้เล่นที่เล่นให้เขา สามารถยอมตายในสนามให้เขาได้ ตรงนี้เป็นสิ่งที่เขามีจิตวิทยา และที่สำคัญคือแนวทางการเล่นของเขาไม่ใช่แค่เอาชนะคู่ต่อสู้อย่างเดียว แต่เขามีแนวทางการเล่นที่น่าตื่นตาตื่นใจ นั่นเป็นสิ่งที่เราต้องการ ซึ่งเราจะมีการประกาศแต่งตั้งอย่างเป็นทางการในวันที่ 4 พฤษภาคม"
"ส่วนเวลาเริ่มงาน การคุมซ้อมต้องดูเรื่องเวลา สิ่งที่เขาต้องรีบทำคือมองหาผู้เล่นที่เหมาะกับแนวทางของเขา และเขาก็ได้ทำการบ้านไป มันจะมีนักฟุตบอลหลายคนที่เราคงจะแปลกใจกับนักเตะที่เข้ามาใหม่ วันนั้นเราได้คุยกับเขาอีกครั้ง เขาได้เห็นนักฟุตบอลที่ฝีเท้าดีมากแต่ยังไม่เคยติดทีมชาติเลย ซึ่งตรงนี้จะเป็นสิ่งที่ใหม่ และสร้างแรงจูงใจสำหรับนักฟุตบอลที่โชว์ฟอร์มในลีกด้วย"
"เราไม่ได้ส่งอะไรให้เขาก่อนหน้านี้ แต่เขามีข้อมูลฟุตบอลไทยทั้งเรื่องจุดอ่อน จุดแข็ง โดยเฉพาะการเล่นเกมรุกแต่ไม่ชอบเล่นเกมรับ เมื่อเสียบอล แผงหลังไม่รู้จะทำอย่างไร ช่องว่างระหว่างตำแหน่งในเกมการเล่น ซึ่งเป็นเรื่องของแท็คติก สิ่งที่เขาพูดมาตรงกับข้อมูลที่ฝ่ายเทคนิคทำมา และเมื่อเขาเห็นข้อบกพร่อง ทำให้เราเชื่อว่าว่าเขาจะสามารถแก้ไขปัญหาได้แน่นอน นอกจากนี้เรายังให้คอนเซปต์แก่เขา คอนเซปต์ของเราคือการส่งผ่านอย่างรวดเร็ว ตรงนี้เขาต้องทำตามคอนเซปต์ของฟุตบอลไทยด้วย ซึ่งเขาก็เข้าใจตรงนี้ด้วย"
"ในเมื่อแฟนบอลชาวไทยคาดหวังในฟุตบอลไทยสูง แต่ผมต้องบอกตรงๆว่าผลการแข่งขันคืออันดับสอง แนวทางการเล่นจะมาก่อน ถ้าเรามีแนวทางการเล่นที่ดี สุดท้ายผลการแข่งขันที่สม่ำเสมอก็จะเกิดขึ้น เราต้องให้ข้อมูลและเขาก็มีข้อมูล ถ้าเราเห็นทีมชาติไทยชุดนี้ หลายคนยังอายุน้อย เฉลี่ยอยู่ที่ 23-24 ปี แล้วขีดความสามารถก็สูง เขาเป็นนักจิตวิทยาที่ดี มันก็จะเป็นสิ่งที่เพิ่มขีดความสามารถของนักฟุตบอลได้ดี สตาฟฟ์โค้ชเขาก็มีความสามารุและประสบการณ์สูง เมื่อรวมกับจิตวิทยาในห้องแต่งตัวในช่วงการแข่งขัน และสตาฟฟ์โค้ชที่คอยหาข้อบกพร่อง มันจะกลายเป็นจุดแข็งของฟุตบอลไทยในอนาคต"
"การเลือกมิโลวาน ราเยวัช ผมกับ คุณพาทิศ ศุภะพงษ์ ได้สัมภาษณ์โค้ชทุกคนที่เข้ามาและรายงานให้กับ นายกสมาคมฯ (พล.ต.อ. สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง) ซึ่งเราก็ตัดสินใจร่วมกัน"
Cr.FA Thailand

วันจันทร์ที่ 24 เมษายน พ.ศ. 2560

ประมุขบอลไทยยืนยันว่าใกล้จะได้ข้อสรุปในเร็วๆนี้สำหรับตำแหน่งหัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทยที่ยังว่างอยู่

พลตำรวจเอก สมยศ พุ่มพันธ์พ่วง นายกสมาคมฟุตบอลไทยยืนยันว่าใกล้จะได้เจ้าของตำแหน่งผู้จัดการทีมชาติไทยคนใหม่ในเร็ววันนี้ 
หลังจากที่ เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทยคนเก่าประกาศออกจากตำแหน่งไป ทาง ส.บอล ไทยก็ได้สัมภาษณ์กุนซือที่ยื่นโปรไฟล์หลายรายจนล่าสุดใกล้ถึงขั้นตอนสุดท้ายของการตัดสินใจเเล้ว
"เมื่อสักครู่ ผมได้เข้าไปนั่งฟัง คุณวิทยา เลาหกุล และ คุณพาทิศ ศุภะพงษ์ ที่สัมภาษณ์โค้ชคนล่าสุด ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นคนสุดท้ายที่เราจะคุยด้วย โดยเราก็คงไม่ปล่อยเวลาให้เนิ่นนานไปมากกว่านี้ เพราะมันจะส่งผลกระทบกับทีมชาติไทย โดยอยากบอกกับคุณวิทยาว่า อยากให้สรุปให้เร็วๆ หน่อย แต่ก็ไม่ได้กดดันเค้านะ ก็ให้เวลา ให้อิสระเค้า เพราะเค้าต้องหาข้อมูล ต้องให้เค้าทำงานให้สบายใจ ให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับทีมชาติไทย"
สำหรับข่าวเรื่องเงินเดือน และข่าวที่มีการคาดการณ์ว่า มิโลวาน ราเยวัช อดีตกุนซือทีมชาติกาน่า และ มาร์กอส ปาเกต้า
อดีตนายใหญ่ทีมชาติซาอุฯ เหลือเพียงแค่สองคนที่สมาคมฟุตบอลฯ คัดออกมาในช่วงโค้ชสุดท้ายของการชิงตำแหน่งเฮ้ดโค้ชทีมชาติไทย ทั้งที่ยังสัมภาษณ์ไม่ครบทุกคนนั้น "บิ๊กอ๊อด" ได้กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า
"ต้องบอกอย่างนี้นะครับ สิ่งที่เป็นข่าวอยู่ มันก็มีส่วนของการเจรจาต่อรองราคา เพราะเราพูดกับอีกคนหนึ่ง เราก็ต้องบอกว่าคนนี้ราคาต่ำกว่า ซึ่งเราต้องทำอย่างไรให้ใช้เงินของสมาคมให้น้อยที่สุด และเกิดประโยชน์กับวงการฟุตบอลไทยมากที่สุด มันเป็นเทคนิคหรือวิธีการ เพราะทำให้เราได้ประโยชน์สูงสุด ก็ดีนะครับที่เป็นข่าว จะได้ให้สมาคมใช้เงินน้อยลง"
"ตอนนี้คิดว่า คุณวิทยาคงตีกรอบให้เหลือน้อยที่สุด ตอนนี้น่าจะเหลือประมาณ 3-4 คน แล้วก็มีดูเรื่องโปรไฟล์ ความได้เปรียบเสียเปรียบกันในเรื่องโปรไฟล์ด้วย ความเหมาะสมด้วย รวมถึงค่าใช้จ่ายที่ต้องเกิดขึ้น นอกจากนี้ ระยะสัญญาด้วย เพราะบางคนต้องการสัญญายาวๆ บางคนก็สั้นๆ เพียงปีเดียว ถ้าไม่ดีก็ไม่ต้องต่อ แบบนี้ก็แฟร์ดี มันต้องเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย เราต้องไม่เอาเปรียบเค้าจนเกินไป และไม่ให้เค้าเอาเปรียบเราจนเกินไป"
โดยกุนซือต่างประเทศทั้ง 8 รายเข้ามาสัมภาษณ์กับ สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ได้แก่ วินฟรีด เชเฟอร์, เรเน มูเลนสตีน, มิโลวาน ราเยวัช, มาซาฮิโระ ชิโมดะ, จอร์วาน วิเอร่า, มาร์กอส ปาเกต้า, ดราแกน ทาลายิช และ อแล็ง แปร์เเรง 

Cr.FourFourTwo